เมื่อวานนี้ (9 ก.ค.) มีรายงานเหตุฉุดและข่มขืนเด็กสาววัย 18 ปี ที่เมืองมูลไฮม์ ประเทศเยอรมนี โดยกลุ่มเด็กชายที่เผ็นผู้ข่มขืนมีทั้งหมด 5 คน สามคนในนั้นอายุ 14 ปี และอีกสองคนอายุเพียง 12 ปีเท่านั้น ทำให้เกิดกระแสถกเถียงว่าควรลดอายุอาชญากรหรือไม่
เหตุการณ์นี้ เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 5 ก.ค. และเหยื่อก็ถูกส่งตัวไปโรงพยาบาลและเข้ารับการรักษาแล้ว
แต่สังคมก็ตั้งประเด็นว่าควรมีการลดอายุเยาวชนที่สามารถรับผิดตามกฎหมายให้น้อยลง เพราะปัจจุบันที่เยอรมนีกำหนดอายุไว้ที่ 14 ปีขึ้นไป ซึ่งแปลว่าเด็ก 2 ใน 5 คนนี้ที่อายุ 12 ปี ไม่ต้องรับโทษทางกฎหมาย เพียงแต่จะถูกส่งไปยังหน่วยงานสวัสดิภาพเด็ก
เรื่องนี้ ไรเนอร์ เวนด์ต หัวหน้าหสภาพกองกำลังตำรวจ ระบุว่า ชาวเยอรมนีนั้นได้เรียกร้องให้ลดอายุเยาวชนเพื่อรับผิดทางกฎหมายมาหลายปีแล้ว แต่ทางหัวหน้าสมาคมผู้พิพากษาเยอรมัน ให้ความเห็นว่า การเพิ่มโทษเพื่อลดอาชญากรรมนั้น ใช้ไม่ได้ผลกับผู้เยาว์ และแนะว่าการให้การศึกษา น่าจะเพียงพอต่อการลดอาชญากรรมที่เยาวชนเป็นผู้ก่อแล้ว
จากรายงานพบว่า ทั้ง 5 คนอยู่ระหว่างถูกพักการเรียน และจะมีการสอบสวนคดีเพิ่มเติมเพื่อส่งฟ้องผู้ต้องหาที่อายุถึงเกณฑ์ต่อไป
ทั้งนี้ ในแต่ละประเทศมีการกำหนดอายุผู้รับผิดตามกฎหมายขั้นต่ำไว้ต่างกัน อย่างในสหราชอาณาจักรนั้น กำหนดอายุขั้นต่ำไว้ 10 ปี ส่วนประเทศสก็อตแลนด์ กำหนดไว้ที่ 12 ปี และประเทศแถบสแกนดิเนเวีย กำหนดไว้ที่ 15 ปี
จากกรณีที่เด็กหยิงวัย 16 ปีเข้าร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรมจ.ชัยภูมิว่าตนและแม่ถูก นายนิยม สระสิทธิ์ ผู้อำนวยการองค์กรตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐ (ภาคประชาชน) ข่มขืนจนแม่ตรอมใจ โรคประจำตัวกำเริบเสียชีวิต ล่าสุดวานนี้ (9 ก.ค.) ตำรวจได้รวบตัวนายนิยมหลังได้ขออนุมัติหมายจับจากศาลจังหวัดชัยภูมิในข้อหาพรากผู้เยาว์
ก่อนหน้านี้ นายนิยมได้เดินทางไปที่สถานีตำรวจ เพื่อเข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน ในข้อหายักยอกทรัพย์เงินบริจาค ซึ่งถูกกล่าวหาก่อนหน้านี้ ส่วนข้อหาข่มขืนกระทำชำเรา ขณะนั้น ยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหา เพราะพนักงานสอบสวนเพียงลงบันทึกประจำวันไว้ อีกทั้ง ยังไม่มีการสอบปากคำตัวของเด็กหญิงผู้เสียหาย เพราะต้องรอสอบปากคำร่วมกับเจ้าหน้าที่สหวิชาชีพ และตอนนั้น นายนิยมได้วางหลักทรัพย์ประกันตัวที่ศาลจังหวัดชัยภูมิ เป็นวงเงิน 4 หมื่นบาท ศาลจึงให้ปล่อยตัวไปชั่วคราว ระหว่างนี้ ตำรวจยังอยู่ในขั้นตอนการสอบสวน และจะนำตัวนายนิยมไปศาลเพื่อขออนุญาตฝากขังในวันพรุ่งนี้
ครูฝึกโหดทำโทษทหารเกณฑ์มาราธอน หกโมงเช้ายันสี่โมงเย็น หัวกดถาดข้าว-มีดปลายปืนจี้ จนต้องหนีจากค่าย
ครูฝึกลงโทษทหารเกณฑ์ – ความรุนแรงที่กระทำต่อทหารเกณฑ์เวียนมาถึงอีกครั้งหลังฤดูเข้ารับเลือกเกณฑ์ทหารของชายไทย คราวนี้เหยื่อเป็นพลทหารอาสาสมัครสังกัดทหารอากาศ อายุ 21 ปี ถูกครูฝึกทำร้ายร่างกายอย่างหนักจนทนไม่ไหว ต้องหนีจากค่ายกลับมาบ้าน
สาเหตุของเรื่องเริ่มต้นจากพลทหารคนดังกล่าวทำผิดกฎ เล่นโทรศัพท์มือถือนอกเวลาที่กำหนด จึงถูกครูฝึกลงโทษ โดยเรื่องเล่าเช้านี้ระบุการลงโทษอย่างยาวนาน 6 ครั้ง ตลอดวันตั้งแต่ 6.00-16.00 น. ที่พลทหารคนนี้ต้องเจอไว้ว่า
“ถูกตบหน้าด้วยมือ 3-4 ครั้ง ก่อนจะใช้โทรศัพท์ตบหน้าหลายครั้งชนิดตบไปคุยไป จากนั้นใช้บ้องไม้ไผ่ความยาว 1 ศอกพันเทปใส ตีที่ก้นอย่างแรง 3-4 ครั้ง เมื่อถึงเวลาทานข้าวก็โดนตีอีก 3 ครั้ง และถูกกดหัวลงไปในจานข้าวแล้วตบ ซ้ำยังโดนผู้ช่วยครูฝึกอีกครั้งกระโดดตบจนหมวกหลุด แล้วยังโดนบ้องไม้ไผ่ฟาดซ้ำแล้วซ้ำเล่า พร้อมถูกถีบใบหน้า หลัง หน้าอก
เมื่อถึงตอนเย็นถูกตีอีก ตกกลางคืนครูฝึกได้ใช้มีดปลายปืนจี้ลงไปที่ไหล่ซ้ายพร้อมบอกว่า “ถ้ามึงหนีออกมาเจอกูแน่” แต่พลทหารคนดังกล่าวทนไม่ไหวจึงหนีออกมาหาครอบครัว” พ่อแม่จึงได้พาตนส่งรักษาที่โรงพยาบาล พระนั่งเกล้า
ต่อมาทางครอบครัวได้ติดต่อให้ทนายรณรงค์ แก้วเพ็ชร ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ช่วยเหลือ โดยพรุ่งนี้ครอบครัวและทนายรณรงค์จะเดินทางเข้าแจ้งความที่กองปราบปราม มีหลักฐานใบรับรองแพทย์ยืนยันพักรักษาตัว 1 สัปดาห์ พร้อมภาพบาดแผลที่ถูกทำโทษไปมอบให้เป็นหลักฐาน
เมื่อประมาณเที่ยงคืนที่ผ่านมา (ก.ค.) เกิดเหตุชายวัยรุ่นคือ นายบุษกร ไกรเพชร อายุ 26 ปี ชักปืนยิงอริขณะขี่รถจักรยานยนต์ไล่ตามกันมา บริเวณถนนราดยางสายสี่แยกจานเตย ไปบ้านสังข์ใหญ่ อ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด ทำให้รถจักรยานยนต์ของอริที่ขี่ซ้อนท้ายมาสองคนเสียหลักชนต้นไม้และตกลงในคูน้ำ
โดยกระสุนถูกเข้าที่บริเวณศีรษะด้านหน้าข้างซ้ายของ นายรินทร์นพัฒน์ งามเสมอ อายุ 19 ปี ซึ่งเป็นคนขี่รถจักรยานยนต์ และขณะนี้อาการยังสาหัสอยู่ ส่วนเด็กวัยรุ่นอายุ 15 ปีนายวิชัย ปาสา มีบาดแผลหลายแห่ง รวมถึงไหปลาร้าหัก กระดูกเชิงกรานแตก ซี่โครงหักทิ่มปอด และเสียชีวิตที่โรงพยาบาลในเวลาต่อมา
แนะนำ : เคล็ดลับต่างๆ | เว็บรวมวิธีต่างๆ How to | จัดอันดับซีรีย์ | รีวิวครีม